กำลังโหลด...
| ออกเสียงล้านนา | อักษรล้านนา | เทียบอักษรไทย | ความหมาย |
|---|---|---|---|
| ฟตส | g | f | น.ฟ้าตีแส่ง - ชื่อวันที่คนล้านนาเชื่อว่าเป็นวันสำคัญยิ่ง สำหรับการทำพิธีมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ สมรส เปิดร้านค้า การคำนวณหาเศษของวันฟ้าตี๋แส่ง ใช้สูตรกฏเกณฑ์ต่างๆ มาจากคัมภึร์สุริยยาตร เป็นหลักการคำนวณทางโหราศาสตร์ ที่ใช้ในการคำนวณปฏิทินมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยมาจนถึงปัจจุบัน เป็นการคำนวณหาค่าที่ละเอียดมาก วันต่อวัน เศษที่หาได้จากสูตร เรียก ''ฟ้าตีแส่งเศษ'' มีจำนวน ๙ ค่า คือ เศษ ๐ ถึง ๘; ฟ้าตีแส่งเศษ ๐,๑,๓,๗,๘ ทำนายว่า ''ไม่ดี''; ฟ้าตีแส่งเศษ ๒,๔,๕,๖ ทำนายว่า ''ดี'' |
| ปี๋หนไต | ปีห฿นฯไท | [ปีหนไท] | น.ปีหนไท - การนับปีและชื่อปีไทยโบราณ มี ๒ วิธี วิธีแรก นับ ๑๒ ปี เป็น ๑ รอบ โดยถือเกณฑ์ ๑๒ นักษัตรเป็นหลัก เรียกว่า ''ปีนักษัตรหนไท'' ได้แก่ ไจ้ เป้า ยี เหม้า สี ไส้ สะง้า เม็ด สัน เล้า เส็ด ไค้ ตรงกับ ''ปีนักษัตร'' และมีสัตว์เป็นสัญลักษณ์ คือ ชวด-หนู,ฉลู-วัว,ขาล-เสือ,เถาะ-กระต่าย,มะโรง-งูใหญ่,มะเส็ง-งูเล็ก,มะเมีย-ม้า,มะแม-แพะ,วอก-ลิง,ระกา-ไก่,จอ-หมา,ก..น-หมู; วิธีที่ ๒ เป็นการนับแบบ ๖๐ ปี เป็น ๑ รอบ โดยเอาชื่อ ศกไทยโบราณ ๑๐ ชื่อ ได้แก่ กาบ ดับ รวาย เมือง เปิก กัด กด ร้วง เต่า ก่า เป็น ''แม่วัน'' หรือ ''แม่มื้อ''; และใช้ชื่อปีนักษัตรแบบหนไท ๑๒ ชื่อ ไจ้...ถึง...ไค้ ตามที่กล่าวมา เป็น ''ลูกว้น'' หรือ ''ลูกมื้อ''; เอา แม่มื้อและลูกมื้อมาจับคู่กันตามลำดับ ตั้งแต่ กาบไจ้ ดับเป้า รวายยี ไปจนถึง ก่าไค้ จะได้ครบ ๑ รอบ ๖๐ ปี |
| แม่มื้อ | g | f | น.แม้มื้อ - ชื่อของ ''แม่วัน'' เรียงอยู่หน้า ''ลูกวัน'' ได้แก่ กาบ ดับ รวาย เมือง เปิก กัด กด ร้วง เต่า ก่า ใช้สำหรับการนับแบบหนไท (วันไต) เช่น กาบไจ้ ดับเป้า รวายยี....ไปจนถึง ก่าไค้: กาบ ดับ รวาย...ก่า เป็นแม่วัน เรียกว่า แม่มื้อ |
| วันเม็ง | วันฯเมังฯ | [วันเม็ง] | น.วันเม็ง - การนับวันแบบมอญ เหมือนการนับวันของไทย เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ เป็นวันแรก วันเสาร์เป็นวันสุดท้าย ได้แก่ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ บ้างก็ใช้ตัวเลขแทน คือ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ |
| วัน | g | f | น.วันหัวเรียงหมอน - เป็นวันที่ใช้หาฤกษ์งานมงคลสมรส ลักษณะการนอนของคนเราที่กล่าวไว้ในเรื่องนี้มีหลายอย่าง เช่น หัวจนหัว(หัวชนหัว)-นอนเอาหัวชนกัน เหยียดเท้าไปตรงกันข้าม, หัวสอดตี๋น(นอนเอาหัวสอดไว้ทื่ตรงเท้าของอีกฝ่ายผนึ่ง, หัวสุ๋บหว่างขา(นอนเอาหัวสอดซุกลึกเข้าไปกลางหว่างขาของอีกฝ่ายหนึ่ง) เป็นต้น ถือว่าไม่่เป็นมงคล แต่ ''หัวเรียงหมอน'' หมายถึง นอนชิดติดกัน หันหัวไปทางเดียวกันบนหมอนที่อยู่ในระนาบเดียวกัน การแต่งงานจะต้องหาฤกษ์หายามให้ดี ชาวล้านนาไม่นิยมแต่งงานในช่วงกลางพรรษา, เดือนคี่(เดือนเกี๋ยง ๓ ๕ ๗ ๙ ๑๑ เหนือ), วันศีลหลวง(ขึ้นหรือแรม ๑๕ ค่ำ), ไม่เป็นวันม้วยบ่าวสาว, ไม่เป็นวันเสียของเดือน, ฟ้าตีแส่งเศษดี และถูกต้องตามตำราว่า วันหัวเรียงหมอนตรงกับขึ้นแรมกี่ค่ำ |
| วันเสียผะจ๋ำเดือน | วันฯเสยฯระฯบจำเดิอฯร | [วันเสียประจำเดือน] | น.วันเสียประจำเดือน; ดู...วันเสีย |
| ไค่ป๋ะ | ไฅ่ปะ,ไระฯค่ปะ | [ไฅ่ปะ,ใคร่ปะ] | ก.อยากพบ,อยากเจอ |
| ฮ้างกั๋น | ร้างฯกันฯ | [ร้างกัน] | ก.หย่ากัน,เลิกเป็นผัวเมียกัน; ละกั๋น ก็ว่า |
| ไม้บ่าค้อนก้อม | b | v | น.ต้นมะรุม - ไม้ต้น ฝักทรงกระบอกยาว ผิวฝักหยักเป็นร่องตามแนวยาว เรียกฝักว่า ''บ่าค้อนก้อม'' ยอดอ่อนเรียก ''ผั๋กอี่ฮืม'' ทั้งยอดอ่อน ดอกอ่อน และฝักอ่อน กินเป็นผักได้ ทุกส่วนใช้ทำยาได้: บ้านเราก็ใช่ย่อย ใบเรียกอย่าง ผลเรียกอีกอย่าง ไม่แพ้ต่างประเทศ เช่น องุ่น เมื่ออยู่ยังต้นเรียก vine เมื่อเก็บไปหมักเป็นเครื่องดื่มแล้วเรียก wine |
| สาบเมือง | สาปฯเมิอฯง | [สาบเมือง] | ก.สาบเมือง - คำว่า ''สาบ'' ภาษาล้านนาหมายถึงการได้กลิ่นอะไรสักอย่าง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นกลิ่นเหม็น เมื่อนำมารวมกับคำว่า ''เมือง'' ในที่นี้หมายถึงท้องถิ่นภาคเหนือ เรียกคนที่อยู่ในภาคเหนือว่า คนเมือง ดังนั้น ''สาบเมือง'' จึงมีความหมายว่า ได้กลิ่นของความเป็นภาคเหนือ ซึ่งมีอยู่ในตัวคนเหนือหรือคนเมืองทุกคน แต่ ''สาบเมือง'' มักหมายถึง การพูดไทยที่มีกลิ่นอายของความเป็นเมือง; ดู...อู้ไทยสาบเมือง |