พจนานุกรม
ภาษาล้านนา-ไทย, ไทย-ล้านนา
โดย อ.จรีย์ สุนทรสิงห์
ออกเสียงล้านนา | อักษรล้านนา | เทียบอักษรไทย | ความหมาย |
---|---|---|---|
จู๋นปาก | จูรปากฯ | [จูนปาก] | ดู...จุ๋นปาก |
บ่าแข่น | บ่าฯแข่นฯ | [บ่าแข่น] | น.ลูกระมาศ,กำจัดต้น ภาษาถิ่นเหนือ เรียก ''บ่าแข่น หรือ บ่าแขว่น''; - เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ สูง 12-20 เมตร เปลือกต้นสีขาว มีหนามแหลมรูปกรวย ปลายตรงหรือโค้งเล็กน้อย ขึ้นตามลำต้น กิ่ง และก้านใบ, ใบเป็นใบประกอบเรียงสลับแบบขนนก ยาว 15-20 ซ.ม.โคนใบเบี้ยว ขอบเรียบหรือเป็นคลื่น ปลายใบเรียวแหลม, ดอกเป็นช่อออกที่ซอกก้านใบหรือปลายยอด ดอกเล็กสีขาวอมเขียวเป็นกระจุกอยู่ที่ปลายช่อ มีกลีบ 4 กลีบ, ผลกลม ขนาดเมล็ดพริกไทย ผลอ่อนสีเขียว 0.5-0.7 ซ.ม.เมื่อแก่เปลือกเป็นสีน้ำตาล และแตกอ้าเห็นเมล็ดสีดำเป็นมัน กลิ่นฉุนรสเผ็ดร้อน: ประโยชน์ทางสมุนไพร ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ หน้ามืด ตาลาย วิงเวียน, ใบขยี้อุดฟันแก้รำมะนาด, ตำรายาจีน ใช้แก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้อาเจียน, ทางด้านโภชนาการ ใบและยอดอ่อนรับประทานเป็นผักสดจิ้มน้ำพริก ลาบ ยำ, ผลแห้งและเมล็ดใช้ผสมเป็นเครื่องเทศ เครื่องแกง เพื่อให้มีรสเผ็ดร้อน และกลิ่นหอม หรือเพื่อชูรสอาหาร ทางภาคเหนือนิยมใช้เป็นเครื่องปรุงน้ำพริกลาบ หลู้ มีรสเผ็ด ใส่ยำเนื้อไก่ แกงผักกาด (ผักกาดเขียวปลี หรือ ผักโสภณ) ทำให้อาหารมีรสชาติดีขึ้น |
เห็๋บบ่าหุ่ง | เหัปฯบ่าฯหุ่ง | [เห็บบ่าหุ่ง] | น.เห็บตัวโต สีเทา; ดู...บ่าหุ่งเห๋บ |
ก๋ำนัน | กำนันฯ | [กำนัน] | น.ตำแหน่งผู้ปกครองในระดับตำบล; แฅว่น,ป้อแฅว่น ก็ว่า |
แหนะ | แหนฯะ | [แหนะ] | ก.กระแหนะ,แตะ,เติม,แต่งให้เรียบร้อยโดยการกดให้เข้าที่ |
นกป๋ก | น฿กฯป฿กฯ | [นกปก] | น.นกตีทอง (นกโพระดกขนาดเล็กพันธุ์หนึ่ง) |
สะหล๋ะต้อดเตตาน | สๆลฯะทอฯดเททาฯนฯ | [สละทอดเททาน] | ก.บริจาคสิ่งของให้เป็นทาน |
โล่ง | โล่฿งฯ | [โล่ง] | ดู...ล่ง |
สะโละสะละ | สโล฿ะสละ | [สะโละสะละ] | ว.ลักษณะที่ไม่ดี ไม่มีคุณภาพ เช่น กิ๋นสะโละสะละ - กินอาหารแสลง ไม่ระมัดระวังทำให้ท้องเสีย,ซื้อสะโละสะละ - ซื้อของโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ |
น้ำเข้าหมิ้นส้มป่อย | นาฯํ้เขั้าหิ้มฯรส฿้มฯป่อฯยฯ | [น้ำเข้าหมิ้นส้มป่อย] | น.น้ำขมิ้นส้มป่อย ภาษาถิ่นเหนือเรียก ''น้ำเข้าหมิ้นส้มป่อย''; น้ำขมิ้นส้มป่อย หรือ น้ำเข้าหมิ้นส้มป่อย - คือน้ำสะอาดที่มีผงขมิ้นละลายเจืออยู่ และมีฝักส้มป่อยแห้ง หรือฝักส้มป่อยแห้งที่ปิ้งไฟให้เกรียมจนมีกลิ่นหอม (กล่าวกันว่า ฝักส้มปอยที่ผ่านการปิ้งไฟจะมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้น) แช่อยู่ ภายหลังไม่นิยมใช้ผงขมิ้น แต่นิยมเติมน้ำหอมและดอกแห้งของดอกไม้หอม เช่น ดอกสารภี คำฝอย พยอม ประยงค์ หรือดอกไม้สด เช่น ดอกมะลิ กลีบกุหลาบ เป็นต้น อนึ่งฝักส้มป่อยที่พึงประสงค์ควรเป็นฝักส้มป่อยที่เก็บในเพ็ญเดือน 3 (เดือน 5 เหนือ) ไม่ขึ้นในป่าช้า ไม่ขึ้นในบริเวณทางแยก และไม่เป็น ''ส้มป่อยงำเงา'' คือขึ้นริมน้ำและมีเงาพาดบนผิวน้ำ ที่สำคัญควรเลือกฝักที่มี 7 ข้อ และใช้จำนวน 7 ฝักจึงจะศักดิ์สิทธิ์นักแล: น้ำขมิ้นส้มป่อย ชาวล้านนานิยมใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งในงานมคล และงานอวมงคล: งานมงคลเช่น ในเทศกาลสงกรานต์ใช้สรงน้ำพระพุทธรูป,พิธีดำหัวพระเถรานุเถระ,ผู้เถ้าผู้แก่ ญาติผู้ใหญ๋ ผู้มีพระคุณ ผู้ที่เคารพนับถือ,พิธีบายศรีสู่ขวัญ,พิธีสู่ขวัญควาย เป็นต้น: งานอวมงคล เช่น พิธีสะเดาะเคราะห์,พิธีไล่ผี,พิธีฌาปนกิจศพ เจ้าภาพจะใช้น้ำขมิ้นส้มป่อยใส่ภาชนะวางไว้ที่ปากทางเข้า-ออกป่าช้า เพื่อให้ผู้ร่วมงานใช้ลูบหัวลูบหน้าตอนขากลับ ถือว่าเป็นการชำระล้างสิ่งไม่พึงประสงค์ |